เรื่องสวดพระธรรมด้วยทำนอง

เรื่องสวดพระธรรมด้วยทำนอง

เรื่องสวดพระธรรมด้วยทำนอง


สมัยต่อมา พระฉัพพัคคีย์สวดพระธรรมด้วยทำนองยาวคล้ายเพลงขับ ชาวบ้าน
เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า พระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตรเหล่านี้ สวดพระธรรมด้วยทำนองยาวคล้ายเพลงขับ เหมือนพวกเราขับ ภิกษุทั้งหลายได้ยินพวกนั้นเพ่งโทษ
ติเตียนโพนทะนาอยู่ บรรดาที่เป็นผู้มักน้อย ...ต่างก็เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนพระฉัพพัคคีย์จึงได้สวดพระธรรม ด้วยทำนองยาวคล้ายเพลงขับ แล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาค ... ทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข่าวว่า ... จริงหรือ ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียน ... ครั้นแล้วทรงทำธรรมีกถารับสั่ง
กะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุสวดพระธรรมด้วยทำนองยาวคล้ายเพลงขับ
มีโทษ ๕ ประการนี้ คือ: ๑. ตนยินดีในเสียงนั้น ๒. คนอื่นก็ยินดีในเสียงนั้น ๓. ชาวบ้านติเตียน ๔. สมาธิของผู้พอใจการทำเสียงย่อมเสียไป ๕. ภิกษุชั้นหลังจะถือเป็นเยี่ยงอย่าง ดูกรภิกษุทั้งหลาย โทษ ๕ ประการนี้แล ของภิกษุผู้สวดพระธรรมด้วยทำนองยาวคล้ายเพลงขับ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงสวดพระธรรมด้วยทำนองยาวคล้ายเพลงขับ รูปใดสวด
ต้องอาบัติทุกกฏ ฯ

พระไตรปิฎก ไทย (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๗
วินัยปิฎก จุลวรรค ภาค ๒    หน้าที่ ๖    ข้อที่ ๑๙ - ๒๐

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น